หลักการและเหตุผล
อย่างที่ทราบกันว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สภาพแวดล้อมของธุรกิจญี่ปุ่นในประเทศไทยเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทั้งการแข่งขันจากจีนและประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเรา การลดกำลังการผลิต ต้นทุนแรงงานและวัตถุดิบที่สูงขึ้น รวมถึงความคาดหวังใหม่จากพนักงานชาวไทยด้วยก็ตามหลายองค์กรกำลังเผชิญกับความท้าทายในการปรับตัว โดยเฉพาะเรื่องการบริหารคนและการสร้างองค์กรให้สอดคล้องกับบริบทไทยในปัจจุบัน จากการพูดคุยกับผู้บริหารญี่ปุ่นหลายท่าน เราได้รับฟังความกังวล เช่น:
・รูปแบบการบริหารแบบญี่ปุ่นไม่สอดคล้องกับวัฒนธรรมไทย ทำให้ทีมขาดความเป็นหนึ่งเดียว
・องค์กรยังไม่สามารถปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดไทย
・ลังเลว่าควรเดินหน้าตามแนวทางเดิมหรือปรับเปลี่ยน
・อยากทราบกรณีศึกษาจากองค์กรอื่นเพื่อประกอบการตัดสินใจ
วัตถุประสงค์
1. เรียนรู้แนวคิดและกรณีศึกษาจริง
เสริมสร้างความสามารถในการนำองค์กรญี่ปุ่นในไทยให้ปรับตัวเข้ากับบริบทของไทยอย่างมีประสิทธิภาพ ครอบคลุมทั้งด้านการสร้างองค์กร การพัฒนาบุคลากร และการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เอื้อต่อการเปลี่ยนแปลง โดยเนื้อหาจะประกอบด้วยทั้งทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง และแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากกรณีศึกษาทั้งที่ประสบความสำเร็จและล้มเหลว
2. ฝึกฝนการบริหารในระดับฐานปฏิบัติการ
ผ่านเวิร์คชอปที่ใช้บริบทขององค์กรผู้เข้าร่วมเป็นโมเดลการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้บริหารสามารถนำ Framework และเครื่องมือไปใช้ในการบริหารระดับ “ประเทศ” ได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่ใช่มุมมองการบริหารระดับแผนกหรือฝ่ายงาน
3. เปิดพื้นที่แลกเปลี่ยนและสร้างเครือข่าย
ผ่านการอภิปรายและกิจกรรมกลุ่มในหัวข้อการสร้างองค์กรและการพัฒนาบุคลากร เพื่อให้ผู้เข้าร่วมได้เกิดการเรียนรู้จากประสบการณ์ของตนเองและผู้อื่น รวมถึงสร้างความสัมพันธ์กับผู้บริหารระดับสูงจากองค์กรญี่ปุ่นหลากหลายอุตสาหกรรมในประเทศไทย
กลุ่มเป้าหมาย
ผู้บริหารระดับสูงชาวญี่ปุ่นในองค์กร
รูปแบบการเรียนรู้และสัดส่วนของกิจกรรม
การอบรมนี้จะใช้ ภาษาญี่ปุ่น ทั้งในเนื้อหาการสอนและเอกสารทั้งหมด เพื่อให้ผู้เข้าร่วมอบรมชาวญี่ปุ่นสามารถเข้าใจและเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่ หลักสูตรนี้ออกแบบให้ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้ผ่านกระบวนการที่หลากหลาย เพื่อให้เกิดความเข้าใจเชิงลึกและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริงในบริบทของการบริหารองค์กรญี่ปุ่นในประเทศไทย โดยมีสัดส่วนกิจกรรมดังนี้:
• การบรรยาย (Lecture) 20%
เน้นการให้ความรู้และทฤษฎีที่จำเป็น เช่น
o ความเป็นมาของความจำเป็นในการปรับตัวขององค์กรญี่ปุ่นในไทย
o บทบาทของผู้บริหารในการนำองค์กรสู่การปรับตัว
o การเสริมสร้าง Engagement ในองค์กร
• การฝึกปฏิบัติ (Practice) 40%
ผู้เข้าร่วมจะได้ทดลองใช้ Famework และเครื่องมือการคิดต่างๆผ่านกิจกรรม เช่น
o การนำเสนอพันธกิจขององค์กร
o การกำหนดวิสัยทัศน์ของฐานปฏิบัติการ
o การวิเคราะห์องค์กรด้วย Congruence Model
• การอภิปรายกลุ่ม (Group Discussion) 35%
ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความคิดเห็นระหว่างผู้บริหาร
o การทำ Storytelling วิสัยทัศน์ขององค์กร
o การวิเคราะห์สถานการณ์จริงของแต่ละองค์กร
o การสะท้อนแนวคิดการบริหารในบริบทต่างวัฒนธรรม
• การถามตอบ (Q&A) 5%
เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมสอบถามและแลกเปลี่ยนกับวิทยากรอย่างใกล้ชิด
เนื้อหาในการเรียนรู้
1. บริบทของการเปลี่ยนแปลงในประเทศไทย
o ปัจจัยภายนอกที่ส่งผลต่อองค์กรญี่ปุ่น เช่น การแข่งขันจากภูมิภาค การเปลี่ยนแปลงแรงงาน และต้นทุนที่สูงขึ้น
o ความจำเป็นในการปรับตัวและการนำองค์กรสู่ความเป็นท้องถิ่น
2. การสร้าง Engagement ในองค์กร
o 3 ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อความผูกพันของพนักงาน
o การสื่อสารพันธกิจและวิสัยทัศน์ให้ชัดเจน
3. การกำหนดวิสัยทัศน์ของฐานปฏิบัติการ
o การมองผ่านมุมมองของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
o การนำเสนอวิสัยทัศน์ผ่าน Storytelling
4. การวิเคราะห์องค์กรด้วย Congruence Model
o การมององค์กรในเชิงระบบ
o การวิเคราะห์ความสอดคล้องระหว่างองค์ประกอบต่าง ๆ
5. การสร้างวัฒนธรรมองค์กรและการบริหารการเปลี่ยนแปลง
o 12 แนวทางการแทรกแซงเพื่อสร้างนวัตกรรมทางวัฒนธรรม
o หลักการของ Change Management
6. การสร้างองค์กรที่ส่งเสริมความมั่นใจในตนเองของพนักงาน
o การออกแบบสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเติบโตและการมีส่วนร่วม
7. การสะท้อนตนเอง (Reflection)
o การทบทวนแนวคิดและพฤติกรรมการบริหารของตนเอง
o การแลกเปลี่ยนกับผู้บริหารจากองค์กรอื่นเพื่อเปิดมุมมองใหม่
รายนามวิทยากร
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มณฑล สรไกรกิติกูล
อาจารย์ประจำสาขาวิชาการบริหารองค์การ การประกอบการและทรัพยากรมนุษย์ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
คุณ Masaya Nakai
ที่ปรึกษาและวิทยากรด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์ Business Consultants South East Asia Co., Ltd และผู้ช่วยวิทยากร 5 คน
การผ่านการอบรม
ผู้เข้ารับการอบรมที่มีเวลาเรียนไม่น้อยกว่า 80% ของเวลาเรียนทั้งหมด จะได้รับวุฒิบัตรจาก คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ระยะเวลาการอบรม
วันศุกร์ที่ 24 ตุลาคม 2568
อบรมจำนวน 1 วัน เวลา 09.00 – 17.00 น. (7 ชั่วโมง)
สถานที่อบรม
ณ ห้องประชุมที่โรงแรม Chatrium Residence Sathon
ค่าธรรมเนียมการอบรม
ค่าธรรมเนียมการอบรมคนละ 9,900 บาท (ชำระค่าลงทะเบียนหลังวันที่ 30 กันยายน 2568)
ค่าธรรมเนียมมีส่วนลด (Early bird) คนละ 7,900 บาท (ชำระค่าลงทะเบียนภายในวันที่ 30 กันยายน 2568)
ค่าธรรมเนียมมีส่วนลด บุคลากรในคณะฯ 25% คนละ 7,425 บาท
ค่าธรรมเนียมมีส่วนลด บุคลากรมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 20% คนละ 7,920 บาท
* สิทธิพิเศษสำหรับบุคลากรในคณะฯ และบุคลากรมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มาอบรม 3 คน จ่ายค่าธรรมเนียม 2 คน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
ศูนย์ให้คำปรึกษาและพัฒนาผู้บริหารทางธุรกิจแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
(Thammasat Consulting Networking and Coaching Center - CONC Thammasat)
ชั้น 3 อาคารธรรมศาสตร์ 60 ปี
คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ท่าพระจันทร์ กรุงเทพฯ 10200
Mobile : 09-1119-4503 (ติดต่อ คุณธัญลักษณ์)
E-mail : conc@tbs.tu.ac.th